วันอาทิตย์ที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2556

ทักษิณขายหุ้น VS ลุงที่เชียงรายขายทองคำ

สารบัญบล็อก

เรื่องนี้ได้เริ่มเขียนขึ้นครั้งแรกเมื่อวันที่ 16 ม.ค. 53 ที่เว็บไซต์ newskythailand

ภาค 1

ผมได้มีโอกาสไปปฏิบัติธรรมที่จังหวัดเชียงรายเมื่อปี 50 – 51 และได้มีโอกาสพูดคุยกับชาวไร่ชาวนา

มีลุงคนหนึ่งถามผมว่า
รัฐเขาจะยึดเงินทักษิณเป็นหมื่นล้านเพราะทักษิณทุจริต โกงกินเงินของชาติใช่มั๊ย

ผมก็เลยตั้งคำถามกลับไปว่า
ถ้าเมื่อสิบปีที่แล้วลุงมีทองคำ 1 เส้นหนัก 10 บาท ตอนนั้นราคาทองคำบาทละ 5,000 บาท พอมาถึงปีนี้ทองคำราคาบาทละ 15,000 บาท ลุงก็เลยขายทองคำทั้ง 10 บาทออกไป ได้เงิน 150,000 บาท แล้วมีคนกล่าวหาลุงว่า ลุงร่ำรวยผิดปกติ ไปโกงเขามา ไปลักขโมยเขามา ลุงว่ามันถูกต้องไหมล่ะ

ลุงแกตอบผมว่า
อ้าว ก็เมื่อสิบปีที่แล้วลุงมีทองคำหนัก 10 บาท และตอนขายลุงก็มีทองคำหนัก 10 บาท เหมือนเดิม แล้วจะกล่าวหาว่าลุงไปขโมยของคนอื่นมาได้อย่างไร

ผมก็เลยบอกลุงไปว่า
ก่อนจะเล่นการเมืองคุณทักษิณเขามีหุ้นอยู่ 1,400 ล้านหุ้น พอมาถึงปี 2549 คุณทักษิณจึงขายหุ้น 1,400 ล้านหุ้นออกไป ได้เงิน 76,000 ล้านบาท รัฐเขาจะยึดเงิน 76,000 ล้านบาทนี่แหละ

ผมถามต่อ ลุงรู้ไหมว่าหุ้นคืออะไร

ลุงแกตอบผมว่า ลุงไม่รู้จักหรอก ไอ้หุ้นเหิ่นเนี่ย

ผมก็จึงบอกว่า หุ้นมันก็ไม่ต่างจากทองคำหรอกลุง

ลุงแกก็พูดต่อ “อ้อ เรื่องมันอย่างนี้ นี่เอง”

ผมก็เลยถามต่อ “แล้วลุงคิดว่าทักษิณโกงกินหรือไม่”

ลุงแกตอบว่า
เมื่อก่อนลุงก็เชื่อตามที่ฟังข่าว ว่าทักษิณโกงกินจริง แต่พอเอ็งยกตัวอย่างเรื่องทองคำ ลุงจึงเข้าใจ มันใส่ร้ายกันนี่หว่า น่าสงสารนายกทักษิณจัง


ภาค 2
หลังจากที่ได้เขียนเรื่องหุ้นที่แอมเพิ่ลริชไปแล้ว มีเสียงสะท้อนกลับมาว่า ทำความเข้าใจอยาก
จึงได้แต่ง ภาค 2 ขึ้นเมื่อวันที่ 19 ก.พ. 53 เพื่อให้ผู้อ่านทำความเข้าใจเรื่องหุ้นที่แอมเพิ่ลริชได้ง่ายขึ้น


แล้วลุงแกก็ถามต่อ “แล้วไอ้แอมเพิ่ลรงเพิ่ลริชล่ะ มันเป็นอย่างงัย”

ผมก็เลยย้อนถามลุงว่า
ถ้าเมื่อสิบปีที่แล้ว ทองคำของลุง 10 บาทนั้นเป็น 2 เส้น เส้นหนึ่ง 2 บาท และอีกเส้น 8 บาท ลูกชายลุงจะไปทำงานในเขมร ลุงเลยเอาเส้น 2 บาทให้ลูกชาย เมื่อลูกชายกลับมาก็เอามาคืนให้ลุง แล้วลุงก็ขายทองทั้งสองเส้น รัฐฯเขาจะเก็บภาษีจากลุง เพราะลุงไปซื้อทองคำจากเขมรมา ราคาแค่บาทละ 5,000 บาท แต่ตอนนี้ลุงขายได้บาทละ 15,000 บาท ทองคำเส้น 2 บาทลุงมีกำไร 20,000 กว่าบาท ลุงต้องเสียภาษี

ลุงแกพูดว่า
ไอ้ทองเส้น 2 บาท เดิมมันอยู่ที่เชียงรายนี่ มันก็เป็นของลุงมาตั้งแต่ต้น และก็เป็นเส้นเดิมที่ลุงให้ลูกชายไป ลูกชายลุงมันไม่ได้ไปเปลี่ยนเป็นทองคำของเขมรเลยนี่หว่า

ผมก็บอกว่า
ทักษิณเขาเอาหุ้นส่วนหนึ่งไปให้แอมเพิ่ลริชเป็นผู้ถือไว้ที่เกาะบริติชเวอร์จิน ผ่านไป 7 ปีแอมเพิ่ลริชก็ส่งหุ้นคืนทักษิณ แล้วทักษิณก็ขายหุ้นทั้งหมด

ลุงแกท่าทางยังงงอยู่ ??

ผมก็เลยพูดต่อว่า
หุ้นที่แอมเพิ่ลริชถือไว้ที่เกาะบริติชเวอร์จิน ก็เหมือนกับทองคำที่ลูกชายลุงใส่อยู่ที่เขมร พอผ่านไป 10 ปี ลูกชายลุงก็เอามาคืนให้ลุง แล้วลุงก็ขายทองทั้งสองเส้น

แล้วลุงก็ยังถามผมต่อ “และไอ้ที่เขาพูดกันว่าทักษิณซุกหุ้นล่ะ มันเป็นยังงัยกัน”

ผมก็ตอบไปว่า
การที่ทักษิณเอาหุ้นไปให้แอมเพิลริชถือไว้ที่เกาะบริติชเวอร์จินนั่นแหละ เขาพากันประนามว่าทักษิณ ซุกหุ้น ถ้าจะเปรียบกับทองคำของลุง เขาก็จะประนามลุงว่า ซุกทองคำไว้ที่เขมร

ลุงพูดต่อ
ข้านึกว่า นายกทักษิณไปขโมยหุ้นใครเขามาจึงต้องเอาไปซุกซ่อน คนในหมู่บ้านบางคนด่าทักษิณว่า รวยเป็นเศรษฐีแล้วยังงกไปขโมยหุ้นคนอื่นไปซุกซ่อนอีก ที่แท้ก็เป็นหุ้นของทักษิณเอง

แล้วลุงก็ถามต่อ “ทำไมต้องใช้คำว่า ซุกหุ้น ใช้คำอื่นไม่ได้หรือไง

ผมตอบ
ใช้คำว่า ซุกหุ้น ก็เพื่อให้คนที่ได้ยินได้ฟังมีความรู้สึกว่า ทักษิณเป็นคนโกง เป็นคนเลวร้าย

ลุงแกพูดต่อ ชาวบ้านรักทักษิณเยอะ คนขี้อิจฉามันทนไม่ได้ เลยใส่ร้ายท่าน

...............................

บทความนี้เป็นเรื่องหนึ่งที่รวมอยู่ในไฟล์ "โต้ข้อกล่าวหาทักษิณอย่างย่อ" (pdf 8 หน้า) >> ดาวน์โหลด
ไฟล์โต้ข้อกล่าวหาทักษิณฯ ได้มีการอัพโหลดใหม่เมื่อ 7 ก.ย. 58 เนื่องจากไฟล์เดิมมีข้อผิดพลาด กล่าวคือ ใต้ตาราง (หน้า 5) จำนวนเงิน : ล้านบาท ที่ถูกต้องคือ จำนวนเงิน : พันล้านบาท

สารบัญบล็อก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น